ในเหตุการณ์ที่สร้างความตกตะลึงให้กับวงการมวยสากลทั่วโลก อิสต์วาน โควัคส์ รองประธานองค์กรมวยโลก (WBO) ประจำทวีปยุโรป และอดีตเลขาธิการสมาพันธ์มวยสากลนานาชาติ (IBA) ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลที่สร้างความสั่นสะเทือนเกี่ยวกับ อิมาน เคลิฟ นักชกชาวแอลจีเรีย โดยยืนยันอย่างหนักแน่นว่าเธอเป็นเพศชายโดยกำเนิด
โควัคส์ วัย 53 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมงานที่รับผิดชอบการทดสอบทางเพศของนักมวยรายนี้ ได้ให้สัมภาษณ์กับ แมกยาร์ เนมเซต สื่อชั้นนำของฮังการี โดยเปิดเผยรายละเอียดที่น่าตกใจว่า “ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่สูงผิดปกติ เพราะในปัจจุบันสามารถปรับแต่งได้ แต่ผลการทดสอบทางเพศระบุอย่างชัดเจนว่า นักมวยแอลจีเรียรายนี้เป็นเพศชายทางชีววิทยาอย่างแท้จริง”
นอกจากนี้ โควัคส์ยังเปิดเผยว่าทาง WBO ได้แจ้งข้อมูลนี้ไปยังคณะกรรมการโอลิมปิกสากลตั้งแต่ปี 2022 แล้ว แต่ทางคณะกรรมการกลับเลือกที่จะไม่ดำเนินการใดๆ ซึ่งส่งผลให้เกิดความวุ่นวายในวงการมวยสากลหญิง โดยเฉพาะในการแข่งขันโอลิมปิก ที่มีการอนุญาตให้นักกีฬาที่มีร่างกายเป็นชายขึ้นชกกับนักมวยหญิง
ความขัดแย้งระหว่างองค์กรกีฬาระดับโลก
ในขณะที่ข้อมูลจาก WBO สร้างความตื่นตระหนก โทมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล กลับยืนยันจุดยืนเดิมว่า “เคลิฟเป็นผู้หญิงโดยกำเนิด เธอไม่ได้ทำอะไรผิด” ซึ่งสวนทางกับข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผยจากโควัคส์อย่างสิ้นเชิง
ความขัดแย้งนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการมวยสากล โดยในปี 2023 สมาพันธ์มวยสากลนานาชาติ (IBA) ได้ตัดสิทธิ์เคลิฟจากการแข่งขัน หลังจากผลการทดสอบดีเอ็นเอพบว่ามีโครโมโซม XY และมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสูงกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม สมาคมมวยแอลจีเรียปฏิเสธผลการตัดสินนี้ โดยกล่าวหาว่าเป็นการกลั่นแกล้งนักกีฬาของพวกเขา
หลังจาก IBA ถูกคณะกรรมการโอลิมปิกสากลแบนออกจากการเป็นผู้จัดการแข่งขันมวยสากลในโอลิมปิก ทาง IOC ได้ตัดสินใจอนุญาตให้เคลิฟกลับมาแข่งขันได้อีกครั้ง ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับหลายฝ่ายและกลายเป็นประเด็นถกเถียงอย่างกว้างขวางในการแข่งขันโอลิมปิก 2024
ผลกระทบต่อการแข่งขันในอนาคต
การเปิดเผยข้อมูลครั้งนี้อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อการแข่งขันมวยสากลหญิงในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแข่งขันโอลิมปิกที่กำลังจะมาถึง ซึ่งเคลิฟมีโปรแกรมจะขึ้นสังเวียนพบกับ จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง นักชกสาวไทย ในรอบรองชนะเลิศ รุ่น 66 กก. ในคืนวันอังคารที่ 6 สิงหาคม นี้ เวลา 03.34 น. ตามเวลาประเทศไทย
การเปิดเผยข้อมูลนี้ไม่เพียงแต่สร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการมวยสากลเท่านั้น แต่ยังเป็นการจุดประเด็นคำถามเกี่ยวกับความยุติธรรมและความเท่าเทียมในการแข่งขันกีฬาระดับโลก ซึ่งอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบและมาตรการในการตรวจสอบเพศของนักกีฬาในอนาคต เพื่อรักษาความเป็นธรรมและความน่าเชื่อถือของการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ